messager
folder ความรู้-บทความ
เมื่อใดให้ลูกเรียนคอมพิวเตอร์

เมื่อใดให้ลูกเรียนคอมพิวเตอร์
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้ ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่ จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้ ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้ สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว
ธุรกิจโฆษณาบนเว็บ

ธุรกิจโฆษณาบนเว็บ
การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้ ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป